I love Library

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy)

บริษัท โอเพ่นเซิร์ฟ จำกัด (“บริษัท”) ได้กำหนดนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ในการดำเนินงานของบริษัท (“นโยบายฯ”) ขึ้น เพื่อเคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวและคุ้มครองรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านขณะที่ท่านเข้ามาใช้บริการ โดยบริษัทจะใช้มาตรการเพื่อจัดการ ควบคุม และปกป้องรักษาข้อมูลของท่านอย่างเหมาะสม เพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้จะถูกนำไปใช้ตรงตามความต้องการของท่านและถูกต้องตามกฎหมาย

1.วัตถุประสงค์ของนโยบายฯ
นโยบายฯ ฉบับนี้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อแจ้งให้ท่านในฐานะผู้ใช้บริการซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบถึงวัตถุประสงค์และรายละเอียดของการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงสิทธิอันพึงมีของท่านตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

2.คำนิยามศัพท์ในนโยบายฯ 
“การประมวลผลข้อมูล” หมายถึง การดำเนินการต่อข้อมูลส่วนบุคคล ด้วยวิธีการอัตโนมัติหรือวิธีการอื่น เช่น การเก็บ บันทึก จัดระบบ จัดโครงสร้าง เก็บรักษา เปลี่ยนแปลงหรือปรับเปลี่ยน การรับ พิจารณา ใช้ เปิดเผยด้วยการส่งต่อ เผยแพร่ หรือการกระทำอื่นใดซึ่งทำให้เกิดความพร้อมใช้งาน การจัดวางหรือผสมเข้าด้วยกัน การจำกัด การลบ หรือการทำลาย “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้ระบุตัวบุคคลได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม
“ข้อมูลส่วนบุคคลแฝง” หมายถึง ข้อมูลที่ทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในลักษณะที่ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถระบุตัวเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้หากปราศจากการใช้ข้อมูลเพิ่มเติมประกอบ ทั้งนี้ ข้อมูลเพิ่มเติมนี้จะมีการเก็บรักษาไว้แยกออกจากกันและอยู่ภายใต้มาตรการเชิงเทคนิคและมาตรการเชิงบริหารเพื่อประกันว่าข้อมูลส่วนบุคคลจะไม่สามารถระบุไปถึงบุคคลธรรมดาได้

3.ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย
บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังต่อไปนี้

  • 3.1 ข้อมูลที่บ่งชี้ตัวตน ได้แก่ ชื่อ-นามสกุล
  • 3.2 ข้อมูลช่องทางการติดต่อ ได้แก่ ที่อยู่อาศัย, หมายเลขโทรศัพท์, อีเมล ,ไอดีไลน์
  • 3.3 ข้อมูลอุปกรณ์หรือเครื่องมือ ได้แก่ IP address
  • 3.4 ข้อมูลที่สามารถเชื่อมโยงไปยังข้อมูลในข้อ 3.1-3.3 ได้ เช่น ชื่อผู้ใช้, ข้อมูลตำแหน่งที่อยู่, ประวัติการชำระเงิน, ประวัติการเข้าใช้งาน
  • 3.5 ข้อมูลบันทึกที่ใช้ติดตามตรวจสอบกิจกรรมต่าง ๆ ของบุคคล ได้แก่ log file, browser and device, cookies, pixel and tags

4. ช่องทางที่บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง จากการที่ท่านเข้าใช้บริการ ติดต่อ เยี่ยมชม ค้นหา ผ่านช่องทางต่าง ๆ ของบริษัท ได้แก่ เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน อีเมล์ สำนักงานของบริษัท เจ้าหน้าที่ของบริษัท หรือช่องทางการสื่อสารอื่น ๆ ระหว่างท่านกับบริษัท รวมถึงเก็บผ่าน browser’s cookies ของท่าน

5.วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
เพื่อประโยชน์ของท่านในการใช้สินค้า และ/หรือบริการของบริษัท บริษัทจะทำการจัดเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามระยะเวลาเท่าที่จำเป็นต่อการบรรลุวัตถุประสงค์ของบริษัท โดยวัตถุประสงค์ของการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล มีดังนี้
 

  • 5.1 เพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญากับบริษัท เช่น
    • 5.1.1 ใช้ยืนยันตัวตนของท่านในการทำสัญญากับบริษัท
    • 5.1.2 ใช้ในการติดต่อสื่อสารระหว่างท่านกับบริษัท
    • 5.1.3 ใช้ในการชำระค่าตอบแทน
    • 5.1.4 ใช้ในการจัดส่งสินค้า และ/หรือใบเสร็จ
  • 5.2 เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามบทบัญญัติของกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือตามคำสั่งของหน่วยงานใดของรัฐที่มีอำนาจ เช่น
    • 5.2.1 การปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
    • 5.2.2 การปฏิบัติตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550
    • 5.2.3 พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542
    • 5.2.4 กฎหมายอื่น ๆ ที่บริษัทจำเป็นต้องปฏิบัติตาม
    • 5.2.5 ประกาศและระเบียบที่ออกตามกฎหมายในข้อ 5.2.1 ถึง ข้อ 5.2.4
    • 5.2.6 คำสั่งทางกฎหมาย (รวมถึงการปฏิบัติตามหมายศาล หรือคำขอจากหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย เจ้าหน้าที่ศาลหรือเจ้าหน้าที่รัฐอย่างไม่จำกัด)
  • 5.3 เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทหรือบุคคลอื่นสำหรับการดำเนินการใด ๆ ที่มีความจำเป็นเท่าที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล เช่น
    • 5.3.1 เพื่อยืนยันตัวตนของท่าน
    • 5.3.2 เพื่อป้องกัน ตรวจสอบ รายการต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์และการฉ้อโกง หรือหาตัวผู้กระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับบริการของบริษัท
    • 5.3.3 เพื่อวิเคราะห์ ทบทวน พัฒนา และปรับปรุงการให้บริการของบริษัท
    • 5.3.4 เพื่อใช้ในกรณีทำให้ไม่ปรากฏชื่อหรือสิ่งบอกลักษณะอันสามารถระบุถึงตัวท่านได้
    • 5.3.5 เพื่อสรรค์สร้างและพัฒนาการให้บริการในอนาคต
    • 5.3.6 เพื่อรับฟังข้อเสนอแนะ ข้อร้องเรียน หรือตอบปัญหาข้อสงสัยต่าง ๆ ของท่านได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    • 5.3.7 เพื่อดำเนินการอย่างทันทีทันใดในการคุ้มครองความปลอดภัยของสาธารณะชนหรือของผู้ใช้บริการของบริษัท
  • 5.4 เพื่อประโยชน์ที่ท่านจะได้รับจากการเข้าใช้บริการของบริษัท บริษัทจะดำเนินการจัดเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เท่าที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้กับบริษัท เช่น
    • 5.4.1 เพื่อให้ท่านได้รับบริการที่ดี สะดวกและสอดคล้องกับความต้องการของท่านมากยิ่งขึ้น
    • 5.4.2 เพื่อให้ท่านไม่พลาดโอกาสได้รับข่าวสาร บริการใหม่ของบริษัท ข้อเสนอเกี่ยวกับการซื้อบริการใด ๆ สิทธิประโยชน์พิเศษ คะแนนสะสม โปรโมชั่น รวมถึงสิทธิในการเข้าร่วมกิจกรรมที่บริษัทจัดขึ้นเป็นพิเศษ
    • 5.4.3 เพื่อให้ท่านไม่พลาดโอกาสรับข้อเสนอเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ บริการ หรือสิทธิประโยชน์พิเศษใด ๆ จากบริษัทในเครือของบริษัทและพันธมิตรทางธุรกิจ
    • 5.4.4 เพื่อให้ท่านสามารถใช้บริการคอร์สออนไลน์จากบริษัทพันธมิตรในเว็บไซต์และแอปพลิเคชันของบริษัทได้
  • ในการให้ความยินยอมตามข้อ 5.4 นี้ หากท่านเป็นผู้เยาว์ คนเสมือนไร้ความสามารถ คนไร้ความสามารถ ท่านต้องได้รับความยินยอมจากบิดามารดา ผู้ปกครอง ผู้พิทักษ์ หรือผู้อนุบาล (แล้วแต่กรณี) ก่อน เว้นแต่เป็นกรณีที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หรือกฎหมายอื่นกำหนดให้สามารถทำได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอม
  • 5.5 เพื่อการประมวลข้อมูลภายในบริษัท การทำสถิติ วิเคราะห์ ศึกษาวิจัยการใช้บริการของบริษัท
    อนึ่ง ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทได้เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยไว้ก่อนวันที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 จะมีผลใช้บังคับ บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิม หากท่านไม่ประสงค์ที่จะให้บริษัทเก็บรวมรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวต่อไป

6. บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ใครบ้าง
บริษัทจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บุคคลภายนอกโดยปราศจากความยินยอมจากท่าน เว้นแต่บริษัทมีหน้าที่หรือได้รับอนุญาตให้ปฏิบัติตามกฎหมายบริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ เช่น เพื่อการวิเคราะห์และพัฒนาปรับปรุงการให้บริการของบริษัท เพื่อการจัดทำข้อมูลทางสถิติ หรือการทำวิจัยการใช้บริการของบริษัท เพื่อการพิสูจน์ตัวตน เพื่อการป้องกันการทุจริต เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อการส่งเสริมการขายและการประชาสัมพันธ์ของบริษัท เพื่อให้บุคคลภายนอกให้การสนับสนุนบริษัท เป็นต้น โดยบริษัทอาจเปิดเผยให้แก่บุคคลภายนอกหรือหน่วยงานต่าง ๆ เช่น บริษัทในเครือ ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ผู้ให้บริการภายนอก พันธมิตรทางธุรกิจ ผู้สอบบัญชี ผู้ตรวจสอบภายนอก ผู้มีอำนาจตามกฎหมาย ผู้รับโอนสิทธิในการควบรวมกิจการต่าง ๆ ของบริษัท นิติบุคคลหรือบุคคลใด ๆ ที่มีความสัมพันธ์หรือมีสัญญาอยู่กับบริษัท รวมถึงผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษาของบริษัทและของบุคคลหรือหน่วยงานที่เป็นผู้รับข้อมูลดังกล่าว
ในกรณีที่บริษัทเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับบุคคลภายนอก เนื่องจากการเข้าทำความตกลงทางการตลาดร่วม และ/หรือร่วมโฆษณาส่งเสริมการขายกับบุคคลภายนอก เพื่อวัตถุประสงค์ในการดึงดูดผู้ใช้บริการในการใช้บริการต่าง ๆ บริษัทสงวนสิทธิ์ในการที่จะยืนยันรับรองหรือให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับบุคคลภายนอกนั้นว่า ผู้ใช้บริการมีการใช้บริการใด ๆ หรือเปิดบัญชีผู้ใช้กับบริษัท หรือให้ข้อมูลแก่ผู้ให้บริการรายอื่นในบางกรณี เพื่อการช่วยเหลือบริษัทในการให้บริการอย่างดีที่สุด และบริษัทจะดำเนินการตรวจสอบเพื่อทำให้แน่ใจว่าผู้ให้บริการรายอื่นมีมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยข้อมูลความเป็นส่วนตัวของท่าน

7. บริษัทจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้นานเท่าใด
บริษัทจะทำการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตามระยะเวลาเท่าที่จำเป็นในระหว่างที่ท่านเป็นผู้ใช้บริการหรือมีความสัมพันธ์อยู่กับบริษัท หรือตลอดระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฯ ฉบับนี้ บริษัทอาจจำเป็นต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ต่อไปภายหลังจากนั้นหากมีกฎหมายกำหนดหรืออนุญาตไว้ ทั้งนี้ เมื่อพ้นระยะเวลาจัดเก็บและไม่มีความจำเป็น บริษัทจะดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้เป็นข้อมูลส่วนบุคคลแฝง เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว

8. บริษัทคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร
บริษัทจะรักษามาตรฐานในการจัดเก็บรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยเคร่งครัด เพื่อวัตถุประสงค์ในการปกป้องความเสียหาย หรือการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการโดยไม่มีอำนาจ บริษัทจะดำเนินการตามมาตรการเชิงเทคนิค เชิงบริหารจัดการ หรือมาตรการอื่นใด และจะทำการปรับปรุงนโยบายฯ ตามความจำเป็นและความเหมาะสมทั้งนี้ กรณีที่ข้อมูลเกิดการสูญหาย การวิบัติ การจู่โจม ไวรัส การรบกวน การเจาะระบบ หรือการบุกรุกการรักษาความปลอดภัยอื่น ๆ จากบุคคลภายนอกเป็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของบริษัท บริษัทขอสงวนสิทธิ์ปฏิเสธความรับผิดที่เกี่ยวข้องกับการนั้น

9. สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีอะไรบ้าง
ในฐานะที่ท่านเป็นผู้ใช้บริการของบริษัท ท่านมีสิทธิดำเนินการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และนโยบายฯ ที่บริษัทกำหนดในขณะนี้หรือที่อาจมีขึ้นในอนาคต

  • 9.1 สิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล
    • (1) ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท
    • (2) ท่านมีสิทธิขอให้บริษัททำสำเนาข้อมูลดังกล่าวให้แก่ท่าน
    • (3) ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทเปิดเผยว่าบริษัทได้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาได้อย่างไร
  • 9.2 สิทธิขอโอนข้อมูลส่วนบุคคล
    • (1) ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัททำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลด้วยวิธีการอัตโนมัติ
    • (2) ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นด้วยวิธีการอัตโนมัติ
    • (3) ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถทำได้เพราะสาเหตุทางเทคนิค
  • ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้นต้องเป็นข้อมูลที่ท่านได้ให้ความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย เพื่อให้ท่านสามารถใช้บริการของบริษัทได้ตามความประสงค์ซึ่งท่านเป็นคู่สัญญาอยู่กับบริษัท หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนใช้บริการของบริษัท หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลอื่นตามที่ผู้มีอำนาจตามกฎหมายกำหนด
  • 9.3 สิทธิขอคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
    • (1) ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อใดก็ได้
      หากการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ทำขึ้นเพื่อการดำเนินการเท่าที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือของบุคคล หรือนิติบุคคลอื่น โดยไม่เกินขอบเขตที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล หรือเพื่อดำเนินการตามภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ หากท่านยื่นคำขอคัดค้าน บริษัทจะยังคงดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปเฉพาะที่บริษัทสามารถแสดงเหตุผลตามกฎหมายได้ว่ามีความสำคัญยิ่งกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของท่าน หรือเป็นไปเพื่อการยืนยันสิทธิตามกฎหมาย การปฏิบัติตามกฎหมาย หรือการต่อสู้ในการฟ้องร้องตามกฎหมาย แล้วแต่กรณี
    • (2) ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่ทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาด
    • (3) ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่ทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ เว้นแต่บริษัทมีความจำเป็นในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัท
  • 9.4 สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล
    ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทดำเนินการลบ หรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลส่วนบุคคลแฝง เมื่อท่านเห็นว่าไม่มีความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฯ ฉบับนี้ หรือการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือเมื่อท่านได้ใช้สิทธิขอคัดค้านตามข้อ 10.3 (1) ข้อ 10.3 (2) และข้อ 10.3 (3) หรือใช้สิทธิขอถอนความยินยอมตามข้อ 10.8
  • 9.5 สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
    • (1) ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการชั่วคราวในกรณีที่บริษัทอยู่ระหว่างการตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอคัดค้านของท่าน
    • (2) ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการชั่วคราวในกรณีอื่นใดที่บริษัทหมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
  • 9.6 สิทธิขอแก้ไขข้อมูล
    ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
  • 10.7 สิทธิร้องเรียน
    ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากท่านเห็นว่าการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

10. Cookies (คุกกี้) คืออะไร และบริษัทใช้คุกกี้อย่างไร
คุกกี้ คือ ข้อมูลชิ้นเล็ก ๆ ที่จะถูกจัดเก็บอยู่บนคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์เคลื่อนที่ของท่านเมื่อท่านเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ โดยเว็บไซต์สามารถอ่านข้อมูลชิ้นเล็ก ๆ เหล่านี้และนำมาใช้งานได้อีกเมื่อท่านเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์นั้นในภายหลัง บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านขณะที่ท่านเข้าใช้บริการเว็บไซต์ของบริษัท ผ่านคุกกี้หรือเทคโนโลยีในลักษณะเดียวกัน โดยการเก็บรวบรวมข้อมูลดังกล่าวเป็นไปเพื่อช่วยให้บริษัททราบข้อมูลการเข้าใช้บริการของท่าน ทำให้บริษัทสามารถนำไปพัฒนาประสิทธิภาพในการเข้าถึงบริการของบริษัทได้ดียิ่งขึ้น และทำให้ทราบถึงความสนใจของท่าน เพื่อที่บริษัทจะปรับปรุงวิธีการเสนอบริการให้แก่ท่านให้ดีและตรงกับความสนใจของท่านยิ่งขึ้น
ประเภทของคุกกี้ที่บริษัทใช้สำหรับเว็บไซต์ของบริษัท

  • 10.1 Required Cookies – ใช้เพื่อเปิดใช้งานการทำงานหลักของเว็บไซต์ คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้ประสบการณ์การใช้เว็บไซต์ของท่านเป็นไปได้อย่างต่อเนื่อง เช่น การจดจำการเข้าสู่ระบบ การจดจำข้อมูลที่ท่านให้ไว้บนเว็บไซต์
  • 10.2 Functionality Cookies – คุกกี้ประเภทนี้ใช้ในการจดจำตัวท่านเมื่อท่านกลับมาใช้งานเว็บไซต์อีกครั้ง ซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถปรับแต่งเนื้อหาสำหรับท่าน ปรับให้เว็บไซต์ของบริษัทตอบสนองความต้องการใช้งานของท่าน รวมถึงจดจำการตั้งค่าของท่าน เช่น ภาษา หรือขนาดของตัวอักษรที่ท่านเลือกใช้ในการใช้งานในเว็บไซต์
  • 10.3 Advertising Cookies – คุกกี้ประเภทนี้ใช้ในการจดจำสิ่งที่ท่านเคยเยี่ยมชม เพื่อนำเสนอสินค้า บริการ หรือสื่อโฆษณาที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ตรงกับความสนใจของท่าน คุกกี้ประเภทนี้จะถูกบันทึกบนอุปกรณ์ของท่านเพื่อเก็บข้อมูลการเข้าใช้งานและลิงก์ที่ท่านได้เยี่ยมชมและติดตาม นอกจากนี้ คุกกี้จากบุคคลที่สามอาจใช้ข้อมูลที่มีการส่งต่อข่าวสารในสื่อออนไลน์และเนื้อหาที่จัดเก็บจากการให้บริการ เพื่อเข้าใจความหมายของผู้ใช้งานโดยมีวัตถุประสงค์ในการปรับแต่งเว็บไซต์ โฆษณาให้เหมาะสมกับความสนใจของท่าน
  • 10.4 Analytical/Performance Cookies – คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้บริษัทสามารถวัดผลการทำงานต่าง ๆ เช่น การประมวลจำนวนหน้าที่ท่านเข้าใช้งาน นับจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ ทราบถึงพฤติกรรมในการเยี่ยมชมเว็บไซต์ เพื่อปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์ให้มีคุณภาพดีขึ้นและมีความเหมาะสมมากขึ้น

11. นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์อื่น
นโยบายฯ ฉบับนี้ ครอบคลุมเฉพาะการให้บริการในเว็บไซต์ของบริษัทเท่านั้น บริการของบริษัทอาจมีลิงก์เพื่อเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์อื่นที่ไม่ได้อยู่ในความควบคุมดูแลของบริษัท (“เว็บไซต์ของบุคคลอื่น”) นโยบายฯ ที่อธิบายไว้ในที่นี้ไม่อาจนำไปใช้กับเว็บไซต์ของบุคคลอื่นได้ ลิงก์จากเว็บไซต์บริการของบริษัทมิได้ระบุว่าบริษัทรับรองหรือได้ตรวจสอบเว็บไซต์ของบุคคลอื่น บริษัทขอแนะนำให้ท่านติดต่อกับเว็บไซต์ของบุคคลอื่นโดยตรงเพื่อศึกษาข้อมูลนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของแต่ละเว็บไซต์

12. การเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว
ขอสงวนสิทธิ์ในการทบทวน เพิ่ม เปลี่ยนแปลง หรือปรับปรุงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ได้ในอนาคต เพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติและกฎหมาย ข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของการให้บริการ และการดำเนินงานของเราเพื่อความเหมาะสมและประสิทธิภาพในการให้บริการทั้งนี้หากมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ บริษัทจะแจ้งให้ทราบผ่านเว็บไซต์ของบริษัทโดยเร็วที่สุด ดังนั้นจึงขอแนะนำให้ท่านอ่านนโยบายและแนวปฏิบัติการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลทุกครั้งที่ใช้บริการ

13. ท่านจะติดต่อบริษัทได้อย่างไร
หากท่านมีข้อเสนอแนะ หรือต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงการขอใช้สิทธิตามนโยบายฯ ฉบับนี้ ท่านสามารถติดต่อฝ่ายช่วยเหลือลูกค้าของบริษัทผ่านช่องทางดังนี้

ช่องทางการติดต่อบริษัท

ชื่อบริษัท         บริษัท โอเพ่นเซิร์ฟ จำกัด

สถานที่ติดต่อ   เลขที่ 89/39 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ 10210

อีเมล               info@openserve.co.th

โทรศัพท์          0-2532-5151

โทรสาร           0-2532-5157